Bleeding Edge เกมออนไลน์แนว Action Shooting ผลงานจากผู้สร้างเกมแอ็คชั่นสุดมันส์ดันเต้ขี้ยา DmC: Devil May Cry
สวัสดีค๊าาาาา! เพื่อนๆ ชาว PingBooster วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักเกมออนไลน์ต่างๆ ที่เปิดให้บริการทั่วโลก ไปรู้จักเกมออนไลน์ตัวใหม่อีกหนึ่งเกมที่พึ่งวางจำหน่ายไปสดๆ ร้อนๆ กับเกมที่มีชื่อว่า “Bleeding Edge” ผลงานจากผู้สร้าง DmC: Devil May Cry หรือ “ดันเต้เวอร์ชั่นขี้ยา” ซึ่งตัวเกมก็มีกระแสตอบรับจากเกมเมอร์อย่างมากทั้งคำวิจารณ์และคะแนนรีวิวต่างๆ เอาละ วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักเกมนี้ให้มากยิ่ง ว่าอะไรทำให้เกมนี้มันโดนตาต้องใจเกมเมอร์ขนาดนั้น!
เกม Bleeding Edge
เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมเกมโชว์สุดยิ่งใหญ่ E3 2019 ซึ่งก็มีเกมเมอร์ให้ความสนใจไม่ใช่น้อยเลย อาจจะเป็นเพราะว่าธีมของเกมที่ดูสีสันจี๊ดจ๊าด และ การออกแบบตัวละครที่ไม่เหมือนใครทำให้เกมนี้ถูกจับตามองอย่างมากใน “ฐานะผู้สร้าง DmC: Devil May Cry” โดยทาง Ninja Theory ผู้พัฒนาเกมนี้ได้เผยว่าตัวเกมของพวกเขาคือเกมออนไลน์ที่มีรูปแบบเกมเพลย์เป็นแนว Action Shooting ในการต่อสู้แบบ 4 Vs. 4 ที่มีเกมเพลย์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก
เกมเพลย์ Bleeding Edge จะเน้นการต่อสู้ในระยะประชิดเป็นหลัก ซึ่งผู้เล่นสามารถทำคอมโบในรูปแบบต่างๆ ที่จะให้อารมณ์ความแอ็คชั่นที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งมันคือเกมที่ผู้เล่นจะต้องอาศัยการใช้ไหวพริบและการวิเคราะห์เพื่อหาทางรับมือคู่ต่อสู้ แล้วลงมือต่อโต้กลับไปด้วยวิธีที่รุนแรง สิ่งที่สำคัญของเกมนี้ก็คือ “ทีมเวิร์ค” เพราะทุกตัวละครล้วนมีความสำคัญที่จะพาทีมไปสู่ชัยชนะนั่นเองค่ะ
ตัวละครภายในเกม
ในเกมจะมีให้เลือกเล่นมากถึง 12 ตัวละคร ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็มีสกิลและความสามารถที่แตกต่างกันออกไป โดยจะมีการแบ่งสายตัวละครออกไป 3 แบบประกอบไปด้วย
- Heavy [สายป้องกัน] เรียกว่าเป็นสายที่มีพลังชีวิต หรือ พลังป้องกันที่สูงมากกว่าสายอื่น จะเป็นตัวที่คอยรับดาเมจจากศัตรูได้เป็นอย่างดี
- Assassin [สายดาเมจ] เป็นตัวสร้างความเสียหายที่ต่อเนื่อง แล้วอาจจะเป็นตัวปิดการสังหารได้เป็นอย่างดี
- Support [สายสนับสนุน] จะเป็นตัวละครที่มีความสามารถในการช่วยเหลือเพื่อนๆ ในทีมได้เป็นอย่างดี แนวหลังที่จะเสริมทัพให้ทีมแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
โดยทุกๆ ตัวละครจะมี Specials Skill กับ Super Skill ที่จะส่งผลในการเล่นเป็นอย่างมาก ถ้าผู้เล่นใช้งานพร้อมกับเพื่อนๆ ในทีมก็จะทำให้เกมเพลย์ในรอบนั้นๆ สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องเลยค่ะ อย่างที่บอก “ทีมเวิร์ค” สำหรับเกมนี้มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว แม้ว่าตอนนี้ตัวละครจะมีเพียงแค่ 12 ตัวแต่ทางทีมผู้พัฒนาเกมก็ยืนยันว่าจะมีการเพิ่มเติมเข้ามาอีกค่ะ ยังไงอดใจรอการอัปเดตเกมนี้อย่างต่อเนื่องก็แล้วกัน นอกจากนี้เรายังปรับแต่งแนวทางการเล่นของเราได้อย่างอิสระ ทั้งอาวุธ และ อุปกรณ์อื่นๆ ที่จะส่งผลต่อเกมเพลย์ทั้งหมดเลย ไอเทมหรืออุปกรณ์เหล่านี้จะปลดล็อคให้จากการทำเควสต์ต่างๆ ภายในเกมค่ะ
มาพูดถึงเกมเพลย์ในเชิงลึกมากขึ้นอีกนิดก็แล้วกันค่ะ ตัวเกม Bleeding Edge เป็นเกมแนวมุมมองบุคคลที่ 3 [FPS] ทำให้การมองเห็นของเกมนี้แตกต่างจากเกมแนว Action Shooting เกมอื่นๆ แล้วด้วยมุมมองแบบนี้จึงไม่แปลกที่เกมเพลย์จะเน้นความรวดเร็ว และ การโจมตีที่ต่อเนื่อง โหมดภายในเกมก็จะมีทั้ง “ยึดพื้นที่” ที่จะให้ผู้เล่นยึดครองพื้นที่ต่างๆ ภายในเกมจากนั้นเก็บคะแนนให้สูงสุด ทีมไหนที่ทำคะแนนได้ถึงเป้าหมายก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ และ อีกโหมดคือ “การแย่งชิงเซลล์พลังงาน” ก็คล้ายๆ กับโหมดแรกเพียงแต่ว่าเราจะต้องรอเซลล์พลังงานปรากฎจากนั้นพยายามแย่งชิงให้มากที่สุด ทีมไหนทำได้ก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ ในอนาคตโหมดเกมเพลย์ก็จะมีการเพิ่มเติมเข้ามาอีกนะ
ปัจจุบันตัวเกม Bleeding Edge ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งแพลตฟอร์ม PC [Steam], PC [Microsoft Store] และ Xbox One สนนราคาเพียงแค่ 379 บาทเท่านั้นค่ะ น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีระบบรองรับเล่นข้ามแพลตฟอร์มกันได้ ในอนาคตไม่แน่นะคะเกมนี้อาจจะเปิดให้เล่นข้ามแพลตฟอร์มก็เป็นได้ค่ะ ถ้าคุณเบื่อกับเกมแนวเดิมๆ ลองมาดูเกม Action Shooting ที่มีธีมและสีสันฉูดฉาดที่ไม่เหมือนใครเกมนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆ อย่างแน่นอนค่ะ
ด้วยความที่ตัวเกม Bleeding Edge เป็นเกมออนไลน์แนว Action Shooting สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าเราเล่นๆ อยู่เผลอแลคขึ้นมาตัวละครของเราอาจจะตายแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ดังนั้นอาเจ๊นัทขอ “แนะนำโปรแกรม PingBooster” ที่จะช่วยในการเข้าเล่นเกมลื่นไหลไม่มีสะดุด รวมไปถึงยังช่วยให้เข้าเล่นเกมที่มีการบล็อคไอพีได้ด้วย ที่สำคัญโปรแกรม PingBooster เป็นโปรแกรม VPN ที่แยกเน็ตในการใช้งานปกติ และ ใช้เล่นเกม จึงทำให้คุณสามารถที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ได้โดยที่ไม่ต้องกังวนว่าโปรแกรมของเราจะไปทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของท่านช้าลงเหมือนโปรแกรม VPN ตัวอื่นๆ ด้วยนะ