สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน เชื่อว่าผู้อ่านที่คลิกเข้ามาในคอนเทนต์นี้ น่าจะกำลังสงสัยถึงความแตกต่างของ VPN ฟรี และ VPN แบบจ่ายเงินรายเดือนกันอยู่ใช่มั๊ยหล่ะครับ เราเคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าครับว่า ผู้ให้บริการ software ฟรีเปรียบเสมือนผู้ใจบุญเหล่านั้น เขามีที่มารายได้จากแหล่งใด และความปลอดภัยในการใช้งานของคุณยังปลอดภัยอยู่จริงหรือไม่?
free VPN รวม ข้อดี - ข้อเสีย ของการใช้งาน VPN ฟรี
- ข้อดี แน่นอนว่าการใช้ VPN ฟรีนั้นทำให้คุณประหยัดเงินถือเป็นสิ่งแรกที่ได้รับในทันที
- ข้อดี เนื่องจากเป็นการใช้งานฟรี คุณจึงแทบไม่จำเป็นที่จะสมัคร Username ในระบบของผู้ให้บริการ
- ข้อดี เนื่องจาก ฟรี ทำให้ไม่จำเป็นจะต้องทำธุรกรรมใดๆกับผู้ให้บริการ VPN (แต่ไม่รวมถึงการใช้งานปกติ)
- ข้อเสีย โดน Ads โฆษณารบกวนการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าการเชื่อมต่อออนไลน์ของคุณจะถูกโจมตีด้วยสื่อโฆษณา
- ข้อเสีย อาจโดนพ่วงการติดตั้ง Software อื่นที่คุณไม่ต้องการ
- ข้อเสีย เมื่อเกิดปัญหาด้านการใช้งาน ไม่มีผู้ให้บริการให้คำปรึกษาในการแก้ไข
- ข้อเสีย การเข้ารหัสข้อมูลอาจไม่มีคุณภาพ อ่อนแอ หรืออาจจะไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ทำให้การรับส่งข้อมูลของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงเหมือนเดิม
- ข้อเสีย โดนจำกัดความเร็ว (Speed) การใช้งาน
- ข้อเสีย โดนจำกัดจำนวน Server ที่ให้บริการ
- ข้อเสีย โดนบีบอัดในด้านปริมาณ เครือข่ายประสิทธิภาพลดลงเพราะจำนวนผู้ใช้งานเยอะเกินไป
- ข้อเสีย เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีให้สำหรับผู้ใช้ฟรี จึงไม่ต้องใช้เวลาและความพยายามมากนักในการรักษาความปลอดภัย
- ข้อเสีย บริการ VPN ฟรีบางครั้งดำเนินการโดยบริษัทที่มีเจตนาร้าย ด้วยเหตุนี้ พวกเขาสามารถติดตาม ตรวจสอบ และบันทึกการสื่อสารออนไลน์ทั้งหมดของคุณ และขายให้กับบุคคลที่สามได้อย่างง่ายดาย
หากรายละเอียดด้านบนนั้นยาวเกินไปโปรดจำไว้ว่า... "บริษัทที่ให้บริการ VPN ฟรีจำเป็นต้องสร้างรายได้" ข้อความนี้อาจช่วยให้คุณฉุดคิดขึ้นมาบ้างว่าเขาจะเอารายได้จากไหนหากให้บริการคุณแบบฟรีๆ
มีอย่างน้อย 4 วิธีที่ผู้ให้บริการ VPN ฟรี สามารถใช้ประโยชน์จากลูกค้าของเขาได้
- ยิงโฆษณาตรงถึงผู้ใช้งาน คุณอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากผู้ให้บริการบางกลุ่มจงใจให้คุณดูหรือคลิกโฆษณาเหล่านั้นเพื่อผ่านไปยัง step การใช้งานขั้นต่อไป
- ประวัติการเข้าชมของคุณ ถูกบันทึกและขายให้กับผู้โฆษณา
- แบนด์วิดท์ของคุณ อาจถูกขโมยและให้บริการแก่ผู้เสนอราคาสูงสุด อาจถูกนำไปใช้ในด้านแย่ๆ
- พวกเขาอาจจะ บันทึก Username, Password, รายละเอียดการใช้งาน Internet Banking และธุรกรรมของคุณ
____________________________
paid VPN แบบจ่ายรายเดือน โดย PingBooster ดีกว่าอย่างไร
PingBooster เป็นผู้ให้บริการ VPN รายเดือน สำหรับเกมเมอร์ มีผู้ใช้งานไว้วางใจในความปลอดภัยการให้บริการจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและนอกประเทศ ให้ความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างจริงจัง เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว เป็นส่วนตัว และปลอดภัยสำหรับลูกค้าทุกคน เรามาดู ข้อดี - ข้อเสีย ของการใช้งานบริการ VPN แบบรายเดือนกัน
- ข้อดี เนื่องจากมีการชำระค่าใช้จ่ายจากผู้ใช้บริการ ทำให้มีรายได้ที่แน่นอนสามารถลงทุนกับโครงข่ายการให้บริการที่แข็งแกร่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อดี บริการของ PingBooster นั้นมีการแยก Server ระหว่างผู้ใช้งาน Internet ทั่วไป ออกจากผู้ใช้งานสำหรับเกมโดยเฉพาะ ส่งผลให้ได้รับประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งานสำหรับลูกค้า Gamer อย่างเต็มที่ (ไม่โดนรบกวนจาก การ Download File ขนาดใหญ่ใน Server เดียวกัน)
- ข้อดี การเข้ารหัสข้อมูลที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง
- ข้อดี ข้อมูลของผู้ใช้งานมีความปลอดภัยจากนโยบายการให้บริการของบริษัทที่ไม่เก็บข้อมูลของลูกค้า
- ข้อดี ไม่โดน Ads จากผู้ให้บริการอื่น รบกวนในการใช้งาน
- ข้อดี เมื่อเกิดปัญหาด้านการใช้งาน มีทีมงานคอยให้บริการช่วยเหลือ และแนะนำการใช้งาน
- ข้อดี ปลอดภัยจากการพ่วงติดตั้ง Software อื่นที่ไม่พึงประสงค์
- ข้อดี ไม่โดนจำกัดความเร็วในการใช้งาน **ตรงส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ISP ในประเทศของผู้ใช้งานว่ามีการล็อค Speed ไปต่างประเทศหรือไม่**
- ข้อดี มีจำนวน Server ให้บริการจำนวนมาก
- ข้อดี เนื่องจากมีจำนวน Server ให้บริการมากทำให้ไม่โดนบีบอัดจำนวนผู้ใช้งาน ส่งผลให้ Server ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อดี มีโปรโมชั่นช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้บริการบ่อยครั้ง
- ข้อดี เมื่อมีเกมใหม่ๆ เปิดให้บริการ PingBooster ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีการพัฒนาระบบเพื่อให้รองกับกับเกมใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
- ข้อเสีย จำเป็นจะต้องชำระค่าบริการ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ **มีบริการทดลองใช้ก่อนจ่าย 1 วัน**
- ข้อเสีย ในการสมัคร Username ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องกรอก E-Mail ที่ใช้งานได้จริง **ใช้สำหรับในกรณีผู้ใช้งานร้องขอ Service Re-Password**
- ข้อเสีย เนื่องจากเป็นบริการรายเดือน จึงทำให้เกิดความสับสนกับผู้ใช้งานบางกลุ่มที่มีความประสงค์ต้องการให้ระยะเวลาในการใช้งานหยุดนับเมื่อไม่มีการใช้งาน ซึ่งผู้ให้บริการไม่รองรับการใช้งาน Air Time รายชั่วโมง
ปัญหานึงที่มักพบในการถกเถียงเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการใช้งาน VPN เพื่อลดค่า Ping นั้น ผู้ใช้งานควรจะมีความรู้เกี่ยวกับลักษณะการทำงานของ Protocol ICMP เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงค่าสัญญาณต่างๆที่วัดได้ และลดความอคติเกี่ยวกับแบรนด์ผู้ให้บริการ เช่น ค่า Ping วัดได้จากความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล นับตั้งแต่การทำงานของ Software ไปยังสาย LAN ที่เป็นทองแดง และ Fiber Optic ที่เป็นใยแก้วนำแสง ซึ่งความเร็วนี้ มีตัวแปรสำคัญ 2 ส่วนคือ ความเร็วของตัวเหนี่ยวนำ(ไฟฟ้าและแสง) และ ระยะทาง ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังโครงข่ายของผู้ให้บริการ ISP ภายในประเทศและต่างประเทศ ผ่าน Fiber Optic ทำให้ข้อมูลถูกส่งด้วยความเร็วแสง แต่ก็ยังสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างจนรู้สึกได้เมื่อระยะทางของปลายทางห่างออกไป หวังว่าบทความนี้จะมอบความรู้ความเข้าใจให้แก่เพื่อนๆได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม VPN ถือเป็น Software ที่ถูกนำมาพัฒนาเพื่อใช้งานให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม เช่น การมุดเพื่อเข้าถึงเนื้อหาในประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงและการมุดเพื่อเข้าเล่นเกมที่เปิดให้บริการภายในประเทศที่จำกัดเฉพาะผู้เล่นภายในประเทศนั่น ถือเป็นประโยชน์ที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนที่สุด